ป.ป.ท. ร่วมกับ บก.ปปป. บุกจับกุม ! ผู้ช่วยพนักงานพัสดุ อบต.คึมชาด รับสินบน

ป.ป.ท. ร่วมกับ บก.ปปป. บุกจับผู้ช่วยพนักงานพัสดุ อบต.คึมชาด จ.ขอนแก่น เรียกรับเงินค่าต่อสัญญาจ้างเหมาบริการฯ พร้อมของกลางเงินสด 100,000 บาท

          วันที่ 5 ตุลาคม 2565 นายภูมิวิศาล เกษมศุข รองเลขาธิการ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. และ พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการ บก.ปปป. ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.ทนง เพิ่มพูล ผอ.ปปท. เขต 3 รักษาราชการแทน ผอ.ปปท. เขต 4 และนายสุภาพ ศิริ ผู้อำนวยการกลุ่มงานปราบปรามคดีพิเศษ นายไพรรัตน์ ปัจจะวงษ์ นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. โดย พ.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ รอง ผบก.ปปป. พ.ต.อ.อัครเดช เกตุเอี่ยม ผกก.4 บก.ปคม.รักษาราชการแทน ผกก.3 บก.ปปป. พ.ต.อ.เกรียงไกร ขวัญไตรรัตน์ ผกก.(สอบสวน) บก.ปปป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปปป. ร่วมกันจับกุมเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลคึมชาด อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น พร้อมของกลางเงินสด จำนวน 100,000 บาท ก่อนจะนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.พล จ.ขอนแก่น

          พ.ต.ท.ทนง เพิ่มพูล ผอ.ปปท. เขต 3 รักษาราชการแทน ผอ.ปปท. เขต 4 เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา มีผู้เสียหายได้เข้าพบเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. โดยแจ้งว่า ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ของผู้บริหารองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งได้เรียกรับเงินจากผู้เสียหายเป็นค่าต่อสัญญาจ้างเหมาบริการขององค์การบริหารส่วนตำบล ซึ่งจะต้องจ่ายเป็นรายบุคคล รายละ 50,000 บาท จำนวน 20 คน และมีการนัดหมายจ่ายเงิน สำนักงาน ป.ป.ท. ในฐานะฝ่ายเลขานุการของศูนย์ต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) จึงได้ประสานไปยังกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง

          โดยลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อทำการจับกุมผู้ต้องหารายดังกล่าว ณ องค์การบริหารส่วนตำบลคึมชาด อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น โดยให้ผู้เสียหายนำเงินสด จำนวน 100,000 บาท ไปมอบให้ นางสาว ว. (นามสมมติ) พนักงานจ้างตามภารกิจ ตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าพนักงานพัสดุ องค์การบริหารส่วนตำบลคึมชาด ตามที่ได้นัดหมายเอาไว้ โดยได้มีการถ่ายสำเนาธนบัตรไว้เพื่อใช้ประกอบเป็นหลักฐานการจับกุมด้วยแล้ว ซึ่งภายหลังการส่งมอบเงิน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าแสดงตัวจับกุม พร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะมีการสืบสวนขยายผลต่อไปว่า ผู้เรียกรับเงินดำเนินการคนเดียว หรือว่ามีใครอยู่เบื้องหลังในกระบวนการ