กกต.ปูดเลือกตั้งเมืองพัทยา พบซื้อเสียงหัวละพัน

เลือกตั้งเมืองพัทยาเดือด! กกต.ปูดเบาะแสซื้อเสียงหัวละพัน ตร.จัดชุดหาข่าว-ชุดเคลื่อนที่เร็ว จับตาช่วงโค้งสุดท้าย

วันที่ 12 พฤษภาคม 2565 ที่โรงแรมอมารีพัทยา เมืองพัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ร.ต.อ.ชนินทร์ น้อยเล็ก รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง เปิดเผยสถานการณ์การเลือกตั้งเมืองพัทยาว่า ถ้าย้อนสถิติในการร้องเรียนการเลือกตั้งในพื้นที่ชลบุรี 4-5 ครั้งที่ผ่านมามีไม่มาก ขณะนี้นอกจากมีข่าวว่ามีการจ่ายเงินหัวละพันแล้วก็มีเรื่องร้องเรียนว่ามีการติดป้ายหาเสียงจำนวนเกินกำหนด ซึ่งยื่นหลักฐานเข้ามาถึง 14 แฟ้ม ซึ่งในเรื่องของการสืบสวนป้องปรามการทุจริต เพื่อให้การทำงานมีความคล้องตัว ตนได้จัดโขนโรงใหญ่เตรียมไว้จำนวนมาก เบื้องต้นมีการจัดชุดเคลื่อนที่เร็วจำนวน 12 ชุดแล้ว และสั่งให้สำนักวินิจฉัย 1 ของ กกต. จัดเจ้าหน้าที่สืบสวนลงสมทบพร้อมกับประสานทางผู้การฯ ชลบุรี จัดเตรียมเพิ่มอีก 2 ชุด กรณีเมื่อผู้สมัครรู้ผลการนับคะแนนแล้วอาจมีการสร้างความวุ่นวายและขอร้องให้มีการนับคะแนนใหม่ ทั้งนี้ กกต.ได้ฝากกำชับให้เจ้าหน้าที่ทำบันทึกเหตุการณ์ เพราะบันทึกเปรียบเสมือนกล่องดำ ที่มีการร้องเรียนของผู้สมัครทั้ง 2 ฝ่าย บันทึกดังกล่าวก็จะเป็นข้อมูลในการพิจารณากรณีการร้องเรียน รวมทั้งเป็นห่วงเรื่องการตั้งหน่วยเลือกตั้งติดกัน ซึ่งอาจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสับสนลงคะแนนผิดหน่วย และกรรมการนับคะแนนผิดพลาด

ด้าน พล.ต.ต.ชัชชรินทร์ สว่างวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญประจำ กกต. กล่าวว่า 2 วันก่อนหน้านี้ได้รับโทรศัพท์จากข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในพื้นที่จะระบุว่าขณะนี้เริ่มมีการแจกเงินในพื้นที่หัวละ 1,000 บาท ซึ่งบ้านของเขาก็ได้

พ.ต.อ.กุลชาต กุลชัย ผู้กำกับการตำรวจภูธรเมืองพัทยา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้จัดประชุม สภ.ในพื้นที่เมืองพัทยาจำนวน 4 สภ.กำหนดแนวทางการปฏิบัติการเลือกตั้ง และจัดกำลังสายตรวจ สืบสวนสอบสวนกว่า 300 นาย ชุดหาข่าว ชุดเคลื่อนที่เร็ว เพื่อเตรียมความพร้อม ชุดออกตรวจจำนวน 200 นาย รวมถึงช่วงการเลือกตั้งได้จัดชุดกองร้อยควบคุมฝูงชนจำนวน 2 กองร้อย และซักซ้อมแผนเผชิญเหตุแล้ว ทั้งนี้ ช่วงโค้งสุดท้ายไม่มีพื้นที่ไหนน่าเป็นห่วง และจับตาเป็นพิเศษ โดยดูจากสถิติการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งที่ผ่านมา ส่วนการทำหน้าที่ตรวจสอบการทุจริตเลือกตั้งในพื้นที่ที่มีผู้อิทธิพล และการเมืองในพื้นที่นั้น ไม่เกรงใจใคร และยังไม่เจอปัญหาเรื่องนี้แต่อย่างใด เมื่อพบการกระทำความผิดพร้อมดำเนินการ