ข่าวต้นชั่วโมง ประจำวันเสาร์ที่ 2 ตุลาคม 2564

Last updated: 5 ต.ค. 2564  |  1207 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ข่าวต้นชั่วโมง ประจำวันเสาร์ที่ 2 ตุลาคม 2564

ข่าวต้นชั่วโมง สถานีวิทยุเครือข่ายสมาคมสื่อช่อสะอาด ทั่วประเทศ

ข่าวต้นชั่วโมง เวลา 09.00 น. ดาวน์โหลดที่นี่  

ผ.อ.ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติเตือนปชช.ลุ่มเจ้าพระยา3จังหวัดเสี่ยง ลพบุรี สระบุรีและอยุธยา จากเขื่อนป่าสักปล่อยน้ำมาก

นายกลวัชร ทรัพย์ส่งสุข ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ในวันนี้ (2 ต.ค.64) ยังคงแจ้งเตือนในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาทั้ง 10 จังหวัด แต่โฟกัสไปยังจุดที่เขื่อนป่าสักที่มีการปล่อยน้ำจำนวน 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้พื้นที่ริมแม่น้ำป่าสักตั้งแต่ท้ายเขื่อนป่าสัก ในอ.วังม่วง อำเภอเสาไห้จ.สระบุรี และอำเภอพัฒนานิคม จ. ลพบุรี ได้รับผลกระทบ จากนั้นน้ำจะไหลผ่านเขื่อนพระราม6 ในชุมชนนอกคันกั้นน้ำบริเวณวัดสะตือ อำเภอท่าเรือจ.พระนครศรีอยุธยา ไปจนถึงจุดบรรจบแม่น้ำเจ้าพระยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา ทำให้หลายพื้นที่ได้รับผลกระทบ เช่นพื้นที่อำเภอท่าเรือ, ภาชี, นครหลวง, บางปะหัน และพระนครศรีอยุธยา

ข่าวต้นชั่วโมง เวลา 10.00 น. ดาวน์โหลดที่นี่  

กรุงเทพโพลล์ ประชาชน 57.5% ไม่กังวลน้ำท่วมซ้ำรอยปี 54 แต่ 70.4%เชื่อมั่นน้อยกว่ารัฐบาลจะป้องกันได้ ให้คะแนนแค่ 3.02 ขณะ 67.5% กลัวโรคระบาดที่มากับน้ำพร้อมโควิด

”กรุงเทพโพลล์” มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดเผยผลผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนเรื่อง “ครบ 10 ปี มหาอุทกภัย คนไทยหวาดหวั่นหรือไม่” โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,077 คน โดยการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ระหว่างวันที่ 28-30 ก.ย.ที่ผ่านมา พบว่า ประชาชน ร้อยละ 57.5 มีความกังวลค่อนข้างน้อยถึงไม่กังวลเลย ว่าจะเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมซ้ำรอยปี 54 ขณะที่ ร้อยละ 42.5 มีความกังวลค่อนข้างมากถึงมากที่สุด โดย ร้อยละ 70.4 ระบุ มีความเชื่อมั่นน้อยถึงน้อยที่สุด ว่ารัฐบาลจะสามารถบริหารจัดการน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถป้องกันไม่ให้เกิดน้ำท่วมเหมือนปี 54 และ ร้อยละ 29.6 ระบุว่า มีความเชื่อมั่นมากถึงมากที่สุด

อย่างไรก็ตาม ประชาชน ยังให้คะแนนความพอใจต่อการเตรียมการรับมือสถานการณ์น้ำท่วม เฉลี่ย 3.02 คะแนนจากเต็ม 5 โดยด้านที่ได้คะแนนมากที่สุดคือ ด้านการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเฝ้าระวัง และเตรียมรับมือ 3.65 คะแนน, ด้านการแจ้งเตือนภัย จากหน่วยงานราชการให้แก่ประชาชนได้ 3.02 คะแนน และด้านการเข้าถึงประชาชนและ ความรวดเร็วด้านความช่วยเหลือได้ 2.88 คะแนน

ข่าวต้นชั่วโมง เวลา 11.00 น. ดาวน์โหลดที่นี่  

รัฐบาลปลื้ม ภูเก็ตแซนด์บอกซ์ สร้างรายได้กว่า 2.3 พันล้านบาท เผย นายกฯ สั่งเดินหน้าพลิกโฉมท่องเที่ยวสู่ระดับโลก เร่งเรียกความเชื่อมั่นควบคู่มาตรฐานด้านสาธารณสุข

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า โครงการภูเก็ตแซนด์บอกซ์ มีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมถึงวันที่ 30 ก.ย. 2564 จำนวน 38,699 คน โดยในจำนวนดังกล่าวพบผู้ติดเชื้อจากการคัดกรอง คิดเป็นร้อยละ 0.3 ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด ในขณะที่จำนวนการจองที่พัก SHA+ Phuket Sandbox สำหรับการเข้าพักระหว่างเดือนก.ค. 2564 ถึงเดือน ก.พ. 2565 อยู่ที่ 716,898 คืน ส่วนโครงการสมุยพลัส และโครงการส่วนขยายของภูเก็ตแซนด์บอกซ์ 7+7 มีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมทั้งสิ้น 907 คน และ 399 คน ตามลำดับ ทั้งนี้ มูลค่าทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นสำหรับโครงการภูเก็ตแซนด์บอกซ์ ณ วันที่ 27 ก.ย.2564 อยู่ที่ประมาณ 2,254 ล้านบาท โครงการสมุยพลัสอยู่ที่ 66.58 ล้านบาท และสำหรับโครงการส่วนขยายของภูเก็ต แซนด์บอกซ์อยู่ที่ 12.16 ล้านบาท รวมสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 2,330 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีนโยบายเปิดประเทศด้านการท่องเที่ยว โดยขยายผลและพลิกโฉมการท่องเที่ยวภูเก็ตแซนด์บอกซ์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลก (World Class Destination) ตั้งเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2564และไตรมาสแรกของปี 2565 จำนวน 1 ล้านคน หรือเฉลี่ยวันละไม่น้อยกว่า 5,000 คน คาดว่าจะสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่น้อยกว่า 60,000 ล้านบาท ซึ่งมีการดำเนินการปลดล็อกเงื่อนไข เช่น การลดวันกักตัวเหลือ 7 วัน การตรวจ RT-PCR ก่อนมาและเมื่อถึงสนามบิน หลังจากนั้นให้ตรวจแบบ ATK, หนังสือรับรองการเดินทางเข้าประเทศไทยออนไลน์แบบหมู่คณะ (Group COE), การอนุญาตเที่ยวบินพาณิชย์ของรัสเซียให้สามารถเดินทางเข้าสู่ภูเก็ต เป็นต้น ทั้งนี้ การพัฒนาเพื่อพลิกโฉมภูเก็ต

ข่าวต้นชั่วโมง เวลา 12.00 น. ดาวน์โหลดที่นี่  

พบอีกศพ! คนขับเรือลากจูงล่ม ใกล้วัดพนัญเชิงอยุธยา ลอยมาไกล ถึงท่าน้ำศิริราช กรุงเทพ

ผู้สื่อข่าวรายงาน รับแจ้งพบ ผู้เสียชีวิต 1 ราย ลอยอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้เคียงกับสะพานพระราม 8 โดยผู้เสียชีวิต เป็นชาย 1 ราย สภาพศพนอนคว่ำหน้าในหน้า แต่งกาย สวมเสื้อยืดสีเหลือง กาเกงขาสั้นสีดำ ทั้งนี้ จากการประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยอยุธยา ทราบว่า ผู้เสียชีวิตน่าจะเป็นบุคคลเดียวกับ คนขับเรือลากจูง ที่ล่มกลางลำน้ำเจ้าพระยา ใกล้เคียงกับวัดพนัญเชิงวรวิหาร พื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา ขณะนี้ เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร นำศพขึ้นที่ท่าน้ำศิริราช และอยู่ระหว่างประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและแพทย์นิติเวช เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยเมื่อวานที่ผ่านมา พบศพของภรรยาคนขับเรือ ลอยมาในพื้นที่ของ จังหวัดปทุมธานี

ข่าวต้นชั่วโมง เวลา 13.00 น. ดาวน์โหลดที่นี่  

รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. พร้อมโอนแอร์พอร์ตลิงก์ พื้นที่ไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน ให้ซีพีบริหารต่อตามสัญญา ขณะคลายล็อกดันยอดผู้ใช้สายสีแดงพุ่ง

นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เปิดเผยว่า ขณะนี้พนักงานของบริษัทฯ ทั้งเจ้าหน้าที่สถานี พนักงานขับรถ ช่างซ่อมบำรุง มีความพร้อมสำหรับการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงบางซื่อ-รังสิต อย่างเต็มรูปแบบในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ มั่นใจสามารถให้บริการประชาชนได้อย่างเต็มที่ ขณะที่ยอดผู้โดยสารในช่วงทดลองใช้บริการล่าสุดอยู่ที่ 5,000 คน/วัน จากช่วงแรกที่เปิดทดลอง 3,000คน/วัน ถือว่าปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสาเหตุอาจจะมาจากการผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 ทำให้ประชาชนเดินทางมากขึ้น ส่วนการให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ยอดผู้โดยสารเริ่มกลับมาเป็นปกติ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมส่งมอบพื้นที่ ให้กับ ซีพี เพื่อนำไปบริหารต่อ สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ) ในช่วงเดือนตุลาคม นี้

ข่าวต้นชั่วโมง เวลา 14.00 น. ดาวน์โหลดที่นี่  

น้ำเหนือไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาเฉลี่ย 3,010 ลบ.ม./วินาที กทม. แจ้งเตือน 11 ชุมชน เฝ้าระวังต่อเนื่อง

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำเหนือไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ว่า วันนี้(06.00 น.) ปริมาณน้ำของกรมชลประทานที่อำเภอบางไทรตรวจวัดปริมาณน้ำไหลผ่านกทม. เฉลี่ย 3,010 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณปากคลองตลาดของ กทม. อยู่ที่ระดับ 1.50 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งยังต่ำกว่าระดับคันกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาของกรุงเทพมหานครอยู่ประมาณ 1.50 เมตร จึงยังไม่ได้ผลกระทบจากน้ำที่ปล่อยมาจากเขื่อนเจ้าพระยาและจากน้ำขึ้นเต็มที่แต่อย่างใด

สำหรับระดับน้ำแนวคันกั้นน้ำด้านตะวันออก ณ ประตูระบายน้ำคลองสอง (สายใต้) อยู่ในระดับปกติ +0.95 (ระดับวิกฤติ +1.80) ประตูระบายน้ำแสนแสบ (มีนบุรี) อยู่ในระดับปกติ +0.59 (ระดับวิกฤติ +0.90) ประตูระบายน้ำลาดกระบัง อยู่ในระดับปกติ +0.13 (ระดับวิกฤติ +0.60) โดยวันนี้ฐานน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะขึ้นสูงสุดเวลา 18.50 น. ที่ระดับ +1.15 ม.รทก. ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา (07.00 น.) : พื้นที่กรุงเทพมหานครมีฝนปานกลางถึงหนัก ปริมาณฝนสูงสุดวัดได้ที่จุดวัดบ่อสูบศาลอาญารัชดา เขตจตุจักร 40.5 มม. ปตร.คลองลาดพร้าว เขตวังทองหลาง 35.5 มม. สำนักงานเขตตลิ่งชัน 35.5 มม. ไม่มีรายงานจุดเร่งการระบายน้ำในถนนสายหลัก อย่างไรก็ตามในช่วงวันที่ 1-5 ต.ค.64 ขอให้ชุมชนที่อยู่นอกคันกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา 11 ชุมชน 239 ครัวเรือน ในพื้นที่ 7 เขต ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์น้ำผ่านทางเว็บไซต์ของสำนักการระบายน้ำ https://dds.bangkok.go.th/ ตลอด 24 ชั่วโมง

ข่าวต้นชั่วโมง เวลา 15.00 น. ดาวน์โหลดที่นี่  

ศบค.รายงานติดเชื้อใหม่ 11,375 ราย สะสม 1,626,604 ราย ตาย 87 รักษาหาย 13,127 ราย ฉีดวัคซีนแล้ว 54.58 ล้านโดส

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. รายงานตัวเลขสถานการณ์ประจำวันเสาร์ที่ 2 ตุลาคม 2564 ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 28 ของโลก พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 11375 ราย รวมสะสม 1,626,604 ราย เสียชีวิตอีก 87 ราย รวม 16,937 รักษาหาย 13,127 ราย เหลือรักษาตัว ในโรงพยาบาล 113,394 คน อาการหนัก 3,124 คน ส่วนการฉีดวัคซีนล่าสุด รวม 54,581,395 โดส แบ่งเป็น เข็มที่ 1 จำนวน 32,815,130 ราย, เข็มที่ 2 จำนวน 20,355,829 ราย และ เข็มที่ 3 จำนวน 1,410,436 ราย

สำหรับ จังหวัด ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อ พบ 74 จังหวัด ติดเชื้อ มากกว่า 100 ราย ต่อวัน มี 3 จังหวัด, ติดเชื้อ 51-100 รายต่อวัน 13 จังหวัด,ติดเชื้อ 11-50 ราย ต่อวัน 25 จังหวัด ติดเชื้อ 1-10 รายต่อวัน 6 จังหวัด และ ไม่มีจังหวัดติดเชื้อเลย 3 จังหวัดโดย 5 จังหวัด สูงสุดกรุงเทพฯ 1,241 ราย, ยะลา 783 ราย สมุทรปราการ 646 ราย ชลบุรี 638 ราย,นครศรีธรรมราช 524 ราย

ข่าวต้นชั่วโมง เวลา 16.00 น. ดาวน์โหลดที่นี่  

โรงภาพยนตร์ เปิดบริการวันที่ 2 คอหนังทยอยเข้าชม ขายบัตรผ่านตู้ คุมเข้มมาตรการโควิด-19

บรรยากาศการเปิดให้บริการโรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ สาขา รัชโยธิน วันที่ 2 หลังจาก ศบค.ได้มีมติผ่อนคลายมาตรการให้โรงภาพยนตร์กลับมาเปิดได้ภายใต้มาตรการด้านสาธารณสุข

ล่าสุด พบว่า มีผู้มาใช้บริการอย่างต่อเนื่องโดยผู้ที่มาใช้บริการ จะต้องทำการจองตั๋วดูหนังผ่านตู้จำหน่ายบัตรชมภาพยนตร์อัตโนมัติ พร้อมชำระเงินผ่านบัตรหรือธนาคารต่าง ๆ เท่านั้น จะไม่มีเคาน์เตอร์หรือพนักงานรับจองตั๋ว แต่บริเวณตู้จำหน่ายบัตรชมภาพยนตร์อัตโนมัติ จะมีพนักงานคอยบริการแนะนำการใช้งานของตู้จำหน่ายบัตรให้กับผู้ใช้บริการ ที่ไม่เข้าใจหลักการจอง การเลือกที่นั่งและการชำระเงินทั้งนี้ เพื่อลดการสัมผัสและลดความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามพนักงานบอกกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ภาพยนตร์ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน ได้มีมาตรการกำหนดให้ลูกค้านั่ง 2 ที่ และเว้นระยะห่าง 2 ที่ จัดที่นั่งแบบสลับฟันปลา พร้อมขอความร่วมมือผู้มาใช้บริการสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดการชมภาพยนตร์ และที่สำคัญห้ามนำป๊อบคอร์น เครื่องดื่ม ขนม เข้ามารับประทานในโรงหนังอย่างเด็ดขาดตามมาตราการควบคุมโรค โควิด-19

ข่าวต้นชั่วโมง เวลา 17.00 น. ดาวน์โหลดที่นี่  

ตม. ร่วม ภ.4 รวบ ฝรั่งเมายาบ้า ข่มขืนสาวร้านนวดแผนไทย ในจ.ขอนแก่น

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม.,พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงการจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติ ข่มขืนพนักงานร้านนวดแผนไทยในจังหวัดขอนแก่น โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ฯ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 ก.ย. เกิดเหตุชายสัญชาติอเมริกัน ทำร้ายร่างกายและข่มขืนพนักงานร้านนวดแผนไทย ย่าน ถ.รอบเมือง เขตเทศบาลนครขอนแก่น จากนั้นคนร้ายได้หลบหนีไป ระหว่างหลบหนีได้ไปก่อเหตุกระทำอนาจารกับเด็กสาว อายุ 13 ปี อีกรายในพื้นที่ อ.บ้านไผ่ จนเป็นข่าวที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมากรอง ผบ.ตร. กล่าวว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ให้ความสำคัญในคดีนี้ เนื่องจากผู้ต้องหากระทำผิดอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายจึงสั่งการให้ เร่งสืบสวนติดตามนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด เพื่อให้เกิดความกระจ่างแก่สังคม

จากการตรวจสอบหลักฐานกล้องวงจรปิด เชื่อมโยงข้อมูลในระบบสารสนเทศของงานตรวจคนเข้าเมือง ทราบว่าผู้ต้องสงสัยคือนายโรเบิร์ต อายุ 37 ปี สัญชาติอเมริกัน จากข้อมูล การแจ้งที่พักของชาวต่างชาติ และการรายงานตัวทุก 90 วัน ทำให้ทราบว่านายโรเบิร์ต ฯ พักอาศัยอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านซอยนานา ถ.สุขุมวิท กทม. จึงได้ขออนุมัติหมายศาลจังหวัดขอนแก่นเข้าทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ตามที่อยู่ข้างต้นในที่เกิดเหตุพบเสื้อผ้า ทรัพย์สิน และรถจักรยานยนต์ในวันที่ผู้ต้องหาใช้ก่อเหตุ ตั้งข้อหาหนัก คือ “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำได้รับอันตรายสาหัส, ข่มขืนกระทำชำเราจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส และหน่วงเหนี่ยวกักขัง” ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้กระทำผิดตามที่กล่าวหาจริง เนื่องจากตนได้เสพยาเสพติด (ยาบ้า)จนเกิดอารมณ์ เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้