Last updated: 27 ส.ค. 2563 | 2935 จำนวนผู้เข้าชม |
สว.ชื่นชมผลงานเกือบ 2 ทศวรรษ สสส. หนุนเกิดด่านครอบครัวป้องกันปัจจัยเสี่ยงเหล้า บุหรี่ อุบัติเหตุ เสนอเร่งสร้างเสริมสุขภาพจิตคนไทย สร้างความเข้มแข็งชุมชน ชี้งบ สสส. เฉลี่ย 65 บาท/ประชากร/ปี สุดคุ้มค่าทำงานครอบคลุมหลายมิติ โปร่งใส ตรวจสอบได้
เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2563 ที่ สัปปายะสภาสถาน ในการประชุมวุฒิสภาได้มีการพิจารณารายงานประจำปี 2562 ของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อให้ข้อคิดเห็น ข้อสังเกต และข้อเสนอแนะต่อการดำเนินงานตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ พ.ศ. 2544 โดยมี ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. ร่วมผู้ชี้แจง
ศ.เกียรติคุณไกรสิทธิ์ ตันติศิรินทร์ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า ตนเห็นความพยายามของ สสส. บุกเบิกงานสร้างเสริมสุขภาพหลากหลายมิติ รวมทั้งความพยายามสร้างความโปร่งใสให้เป็นที่ประจักษ์ สิ่งนี้เองทำให้ สสส. มีความเข้มแข็ง สามารถข้ามผ่านทุกวิกฤตมาได้เกือบ 2 ทศวรรษ ในส่วนประเด็นการสื่อสารต้องยอมรับว่า ‘ให้เหล้าเท่ากับแช่ง และงดเหล้าเข้าพรรษา’ ประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่ยังมีอีกหลายประเด็นต้องให้ความสำคัญมากขึ้น อาทิ อาหารและโภชนาการ สุขภาวะทางเพศ การออกกำลังกาย สุขภาวะในชุมชน โดยเฉพาะประเด็นสุขภาพจิต เพราะคนไทยมีแนวโน้มป่วยด้วยโรคนี้ค่อนข้างมาก ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) นอกจากนี้ตนยังขอเสนอให้ สสส. ทำงานร่วมกับองค์กรที่มีหน้าที่กำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ เช่น กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กระทรวง และมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เป็นต้น
ด้าน ทพ.อนุศักดิ์ คงมาลัย สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า หลายคนอาจมองว่างบประมาณของ สสส. ที่ได้รับเป็นเงินจำนวนมหาศาล แต่เมื่อหารเฉลี่ยจะตกอยู่ที่ 65 บาท/ ประชากร/ ปี เท่านั้น ซึ่งเป็นจำนวนไม่มากเมื่อเทียบกับประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ ทั้งนี้ตนมองว่า สสส. มีศักยภาพมากกว่าการเป็นน้ำมันหล่อลื่นให้องค์กรต่าง ๆ แต่ สสส. สามารถเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง ที่จุดประเด็นสำคัญได้ด้วยตัวเอง โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 สสส. และภาคีเครือข่ายคือส่วนหนึ่งที่สำคัญในการให้ความรู้กับประชาชน ช่วยหนุนเสริมนโยบายของภาครัฐให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น
นพ.ทวีวงษ์ จุลกมนตรี สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า ตนขอชื่นชม สสส. ที่สามารถปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ด้านการสร้างเสริมสุขภาพ ทำให้คนทุกช่วงวัยเห็นความสำคัญจากประโยชน์ของการมีสุขภาวะ โดยเฉพาะประเด็นสื่อสาร ‘ชีวิตดีเริ่มที่เรา’ ส่งเสริมให้ทุกคนเริ่มต้นดูแลตัวเอง ซึ่งสังคมจะมีสุขภาวะได้ พลเมืองต้องแข็งแรง อย่างไรก็ตาม เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตนขอเสนอให้ สสส. สนับสนุนให้เกิด ‘ด่านครอบครัว’ ด้วยการใช้ความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว ตักเตือนกันและกัน เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงเหล้า บุหรี่ ยาเสพติด และอุบัติเหตุบนท้องถนน
นพ.สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า ตนเห็นความพยายามของ สสส. ในการผลักดันให้มีการจัดเก็บภาษีน้ำตาล เพราะเกี่ยวข้องกับสุขภาพของประชาชนโดยตรง ซึ่งขอให้กำลังใจทำงานเรื่องนี้อย่างเข้มข้นต่อไป ทั้งนี้ขอเสนอให้ สสส. กำหนดตัวชี้วัดการสร้างเสริมสุขภาพกายและใจให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์ต่อการกำกับติดตามตรวจสอบ โดยเฉพาะตัวชี้วัดประเด็นการสนับสนุนให้เกิดกิจกรรมทางกาย และควรจัดระเบียบสร้างความโปร่งใสเรื่องการให้ทุนแก่ภาคีเครือข่ายให้ดียิ่งขึ้น พร้อมกับขอแนะนำให้ทำงานร่วมกับ อสม. เพราะจากช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา เราเห็นบทบาทโดดเด่นของ อสม. ในการส่งเสริมให้คนในชุมชนป้องกันตัวเองจากโรคนี้