Last updated: 3 ธ.ค. 2562 | 3462 จำนวนผู้เข้าชม |
วันที่ 9 ธันวาคมนี้ จะเป็นวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล ซึ่งประเทศไทยเป็น 1 ในประเทศภาคีสมาชิกสหประชาชาติ จึงจะมีการจัดกิจกรรมต่อต้านการคอร์รัปชันในทุก ๆ ปี
นางสุวณา สุวรรณจูฑะ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และนายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และคณะผู้บริหาร เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อประชาสัมพันธ์งานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (ประเทศไทย)
วันที่ 3 ธันวาคม 2562 ณ บริเวณโถงกลาง ชั้น 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นางสุวณา สุวรรณจูฑะ กรรมการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. กล่าวว่าในปีนี้จะมีกิจกรรมภายใต้แนวคิด Zero Tolerance คนไทยไม่ทนต่อการทุจริต ประกอบไปด้วย 2 กิจกรรม คือ วันต่อต้านคอร์รัปชันสากลที่จะถึงนี้ จะมีการประกาศเจตนารมณ์ของประเทศไทยในการแก้ปัญหาการทุจริต ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และมีตัวแทนจากสหประชาชาติเข้าร่วมงาน เพื่อให้รู้ว่าประเทศไทยมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาการทุจริต จะจัดขึ้นที่ศูนย์ประชุมอิมแพคเมืองทองธานี ส่วนอีกหนึ่งกิจกรรมคือกิจกรรมเดิน-วิ่งเพื่อรณรงค์ส่งเสริมคุณธรรม ราษฎร์-รัฐร่วมใจไม่เอาคอร์รัปชัน Good Guy Run 2019 ซึ่งจัดไปเมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 3,000 คน นางสุวณาหวังว่า จะทำให้คนไทยตระหนักว่า การทุจริตเป็นเรื่องใกล้ตัวและประเทศเกิดความเสียหาย ดังนั้นทุกคนต้องช่วยกันป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริตขึ้น มุ่งยกระดับดัชนีการรับรู้การทุจริต หรือ CPI ให้สูงขึ้นร้อยละ 50 ภายในปี 2564
ด้าน พ.ต.ท.วันนพ สมจิตนากุล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ได้กล่าวถึงคะแนนค่า CPI ล่าสุด ของประเทศไทยว่า ปี 2561 ประเทศไทยได้รับการประเมิน 36 คะแนน อยู่ในลำดับที่ 99 จากประเทศที่เข้าร่วมประเมินทั้งหมด 180 ประเทศ และอยู่ในลำดับที่ 5 ของประเทศอาเซียน สะท้อนให้เห็นว่าปัญหาการทุจริตเป็นปัญหาที่ทุกประเทศทั่วโลกต้องร่วมมือกันแก้ไขอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ในส่วนของประเทศไทยได้กำหนดแนวทางขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตระยะที่ 3 จำนวน 6 ข้อ ประกอบด้วย สร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต, ยกระดับเจตจำนงทางการเมืองในการต่อต้านทุจริต, สกัดกั้นการทุจริตเชิงนโยบาย, พัฒนาระบบป้องกันการทุจริตเชิงรุก, ปฏิรูปกลไกและกระบวนการปราบปรามการทุจริต, ยกระดับคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริตของประเทศไทย
ขณะที่นายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันประเทศไทย ระบุว่า ในฐานะที่เป็นองค์กรเอกชนที่ต้องการเป็นพลังร่วมขับเคลื่อนการคอรัปชั่นเป็นสิ่งที่คนไทยและสังคมไทยยอมรับไม่ได้ เห็นได้จากผลสำรวจสถานการณ์คอรัปชั่นไทยของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เมื่อเดือนสิงหาคม 2561 ที่พบว่า คนไทยไม่สามารถทนทานกับการทุจริต และอยากเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันการทุจริตมากขึ้น ดังนั้นภาครัฐ และหน่วยงานที่ทำหน้าที่ตรวจสอบอย่าง ป.ป.ช. ป.ป.ท. จะต้องตระหนักถึงความตื่นตัวของคนไทย มีการปฏิรูปกฎหมายเพื่อให้การทำงานตรวจสอบรวดเร็ว ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นลงโทษผู้กระทำความผิดให้เร็วขึ้นหรือให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาได้เร็วขึ้น ขณะเดียวกันเมื่อคนไทยเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้นแล้ว ภาครัฐก็ต้องให้ความสำคัญกับการคุ้มครองผู้ให้ข้อมูล มีการปกปิดชื่อผู้ร้องเรียน มีมาตรการคุ้มครองผู้ให้ข้อมูลและให้รางวัลเมื่อสามารถริบทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน และที่สำคัญภาครัฐต้องเปิดเผยข้อมูลและให้ประชาชนเข้าถึงได้สะดวก ซึ่งเป็นผลดีต่อการตรวจสอบความโปร่งใสในการทำงานของภาครัฐ