มาร์เก็ตบัซซเผยตัวเลขเมื่อโซเชียลมีเดียกลายเป็นช่องทางหลักของนักการตลาด

Last updated: 6 มี.ค. 2561  |  3020 จำนวนผู้เข้าชม  | 

มาร์เก็ตบัซซเผยตัวเลขเมื่อโซเชียลมีเดียกลายเป็นช่องทางหลักของนักการตลาด

โซเชียลมีเดียกลายเป็นหนึ่งช่องทางในการสื่อสารการตลาด จนแทบจะกลายเป็นช่องทางหลักของหลายธุรกิจ จากเดิมที่การสื่อสารแบ่งออกเป็น Above the Line เช่น ทีวี วิทยุ สิ่งพิมพ์และ Below the Line บิลบอร์ด โปสเตอร์ แผ่นพับเป็นต้น จากการค้นคว้าวิจัยของมาร์เก็ตบัซซ (Marketbuzzz) ได้เผยข้อมูลที่ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของโซเชียลมีเดียที่เพิ่มขึ้นและที่ผลกระทบต่อธุรกิจในประเทศไทย

ผลการสำรวจ พบว่า ธุรกิจตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ต่างใช้โซเชียลมีเดียทำการตลาดและขายสินค้าไปยังลูกค้าโดยตรง และยังมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้โซเชียลมีเดียชื่อดังอย่าง Facebook, Youtube และ LINE เป็นต้น โซเชียลมีเดียได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบที่ผู้ดำเนินธุรกิจใช้สื่อสารและเชื่อมต่อกับลูกค้า

ผู้ดำเนินธุรกิจคนไทยในทุกอุตสาหกรรมจำนวน 2,000ราย พบว่า 89% มีการใช้โซเชียลมีเดียอยู่แล้ว ซึ่งครอบคลุมทั้งธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลางและขนาดใหญ่ โดย 71% มีการใช้โซเชียลมีเดียในการทำธุรกิจในทุกๆ วัน และ 58% โซเชียลมีเดียให้ประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ธุรกิจมักนิยมสื่อสารผ่าน LINE ถึง 58% ในขณะที่ 43% ใช้อีเมล์และ 35% ใช้ Facebook

 

โซเชียลมีเดียทำให้ทุกคนสามารถเชื่อมต่อไปยังกลุ่มลูกค้าและผู้ซื้อได้โดยตรง ด้วยต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ต่ำลง ซึ่งโซเชียลมีเดียได้กลายเป็นวิธีการที่ทรงประสิทธิภาพในการสร้างความรู้สึกของการเป็นชุมชนให้กับลูกค้า และยังช่วยให้ได้รับทราบถึงตอบรับที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการ จึงไม่แปลกใจที่จะเห็นคนไทยยกระดับการใช้โซเชียลมีเดียสำหรับการทำธุรกิจและการใช้เพื่อส่วนตัวด้วยเช่นกัน

การสำรวจยังพบว่า โซเชียลมีเดียช่วยให้ลูกค้าสามารถค้นหาและแชร์ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับแบรนด์สินค้าและผลิตภัณฑ์ และยกระดับพลังของอิทธิพลแห่งโซเชียล โดยประมาณ 60% ของผู้บริโภคที่ค้นหาผลิตภัณฑ์จะผ่านทางออนไลน์ รวมถึงการศึกษาข้อมูลแบรนด์สินค้าผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งผู้ใช้โซเชียลมีเดียยังมีแนวโน้มที่จะอ่านบทความรีวิวผลิตภัณฑ์ทางออนไลน์มากกว่าอีกด้วย

ดร.แดเนียล แมคฟาร์เลน ผู้วิจัยและที่ปรึกษาทางด้านดิจิทัลมีเดีย ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลการสำรวจนี้ว่า “ลักษณะของการสื่อสารถูกแตกย่อยออกไปมากขึ้น ทุกภาคส่วนของตลาดมีการใช้โซเชียลมีเดีย แต่ใช้ในรูปแบบที่แตกต่างกัน หากองค์กรให้ความสำคัญกับช่องทางใดช่องทางหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น เฟซบุ๊ก ไลน์ หรืออีเมล์ มากเกินไป จะทำให้การเข้าถึงลูกค้าถูกจำกัดลง”

ที่สำคัญการบอกต่อแบบปากต่อปากนั้นสำคัญต่อผลสำเร็จของธุรกิจขนาดเล็กเสมอ แต่โซเชียลมีเดียอย่าง Facebook และ LINE ช่วยทำให้การบอกต่อแบบปากต่อปากทรงพลังมากขึ้นโซเชียลมีเดียไม่เพียงเป็นสื่อที่สำคัญในการโฆษณาแต่ยังกลายเป็นสื่อหลักในการสื่อสารระหว่างแบรนด์และผู้บริโภคขณะที่ผู้บริโภคต้องการที่จะสื่อสารกับผู้บริโภคด้วยกันเองผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียมากขึ้น

 

ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ซื้อและรับรองหรือแนะนำแบรนด์สินค้าต่างๆ ในโซเชียลมีเดีย และยังใช้สื่อโซเชียลของแบรนด์เพื่อตำหนิหรือบ่นเกี่ยวกับประสบการณ์ที่ได้รับอีกด้วย การแสดงความรู้สึกต่างๆ มีมากขึ้น ธุรกิจจึงควรสร้างและส่งเสริมแบรนด์สินค้าของตัวเอง เจ้าของธุรกิจและนักวางกลยุทธ์การตลาดควรตั้งคำถามถึงความสัมพันธ์ทางโซเชียลแบบใดที่ต้องการ ซึ่งขึ้นอยู่กับช่องทางที่ใช้ โดยคนไทยส่วนใหญ่ใช้ LINE ในการสื่อสารกับครอบครัว เพื่อนสนิทและลูกค้าขณะที่ Facebook จะใช้ในการสื่อสารกับกลุ่มคนที่กว้างออกไป ทั้งสองช่องทางจึงควรถูกใช้ในวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน

เห็นได้ชัดว่า โซเชียลมีเดียถูกนำมาใช้ในการธุรกิจมากกว่าใช้ส่วนตัว ซึ่งตอนนี้การใช้โซเชียลมีเดียไม่ได้เป็นทางเลือกสำหรับธุรกิจอีกต่อไป แต่เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการปฎิสัมพันธ์และการเชื่อมต่อกับลูกค้า

 

ต้นฉบับจาก MarketingOops.com

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้