Last updated: 12 ธ.ค. 2560 | 2206 จำนวนผู้เข้าชม |
‘ศปถ.’ เผยสงกรานต์ 6 วัน ดับ 335 ราย สั่งเพิ่มจุดตรวจสายหลัก-สายรอง ป้องเหตุเดินทางกลับ
เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2560 เวลา 10.30 น. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย รศ.นพ.โศภณ นภาธร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวระหว่างเป็นประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2560 ว่าศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 16 เมษายน เป็นวันที่ 6 ของการรณรงค์ เกิดอุบัติเหตุ 403 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 44 รายและมีผู้บาดเจ็บ 427 คน สำหรับการวิเคราะห์สถิติอุบัติเหตุของวันที่ 16 เมษายน พบว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาแล้วขับ ร้อยละ 37.72 ขับรถเร็ว ร้อยละ 31.02 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 81.58 รถปิกอัพ ร้อยละ 8.37 สรุปอุบัติเหตุทางถนนรวม 6 วัน ระหว่างวันที่ 11-16 เมษายน เกิดอุบัติเหตุรวม 3,388 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 335 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 3,506 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตมี 7 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ นราธิวาส พังงา ภูเก็ต แม่ฮ่องสอน สมุทรสงคราม และอำนาจเจริญ จังหวัดที่ไม่มีผู้บาดเจ็บในช่วง 6 วัน ได้แก่ ชัยภูมิ จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 153 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา 17 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 160 คน
นพ.โศภณกล่าวอีกว่า วันที่ 17 เมษายน เป็นวันหยุดสุดท้ายของเทศกาลสงกรานต์ ประชาชนส่วนใหญ่อยู่ระหว่างเดินทางกลับ ทำให้เส้นทางสายหลักจากภูมิภาคต่างๆ ที่มุ่งเข้าสู่กรุงเทพมหานคร มีปริมาณรถหนาแน่น ประกอบกับความอ่อนล้าของผู้ขับขี่ ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุง่วงหลับใน ศปถ.จึงได้เน้นย้ำให้จังหวัดเพิ่มจุดตรวจ จุดบริการบนเส้นทางสายหลัก เข้มข้น การดูแลความปลอดภัยในการเดินทางและอำนวยการจราจรแก่ประชาชน โดยเปิดช่องทางพิเศษ ปิดจุดกลับรถ และปิดสัญญาณไฟจราจรให้สอดคล้องกับสถานการณ์ รวมถึงกวดขันการจอดรถริมทางและร้านค้าที่วางสิ่งของล้ำช่องทางจราจร เพื่ออำนวยการจราจรให้มีความคล่องตัวและป้องกันอุบัติเหตุจากการแซงริมไหล่ทาง พร้อมจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกบริเวณเส้นทางที่มีการจราจรแออัด โดยเฉพาะเส้นทางเชื่อมสู่ถนนสายหลัก อีกทั้งเพิ่มการดูแลเส้นทางสายรองที่ประชาชนใช้เป็นทางลัดและทางเลี่ยงเมือง ส่วนใหญ่เป็นถนนทางตรง วิ่งสวนเลน และไม่มีเกาะกลาง จึงสามารถใช้ความเร็วได้สูง ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ทั้งนี้ ฝากผู้ใช้รถใช้ถนนไม่ขับรถเร็ว ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด หยุดพักรถทุก 1-2 ชั่วโมง ไม่ฝืนขับรถเมื่อมีอาการง่วงนอน ให้จอดพักรถตามจุดบริการต่างๆ หรือสถานีบริการน้ำมัน เพื่อให้เดินทางถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดี ปภ. กล่าวว่า จากสถิติอุบัติเหตุทางถนนในช่วงการเดินทางกลับ พบว่าอุบัติเหตุบนเส้นทางสายหลักเป็นถนนในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นและกว่าร้อยละ 54.66 ของผู้เสียชีวิตเกิดขึ้นบนถนนทางหลวง วันนี้คาดว่าเส้นทางสายหลักจะมีปริมาณรถหนาแน่นตลอดทั้งวัน ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุชนท้ายและเฉี่ยวชน ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนได้กำชับจังหวัดให้เพิ่มความถี่ในการจัดตั้งจุดตรวจบนเส้นทางสายหลัก เพื่อชะลอความเร็วรถและป้องกันการแซงในระยะกระชั้นชิด รวมถึงเข้มข้นการดูแลจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ ทั้งทางโค้งที่มักเกิดอุบัติเหตุรถแหกโค้ง ทางลาดชันที่มักเกิดอุบัติเหตุเบรกแตก และเส้นทางตรงที่มีระยะทางยาวที่มักเกิดอุบัติเหตุจากการหลับใน