Last updated: 18 ธ.ค. 2565 | 3536 จำนวนผู้เข้าชม |
ป.ป.ช.เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'ปิยากร อาจวิชัย' อดีตนักวิชาการจัดเก็บรายได้ เทศบาลตำบลมุก มุกดาหาร ปลอมใบเสร็จยักยอกเงินจัดเก็บภาษีไปใช้ประโยชน์ส่วนตน ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 4 พิพากษาลงโทษ จำคุก 14 ปี 42 เดือน พฤติการณ์คดีร้ายแรงไม่รอลงอาญา
เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นางปิยากร อาจวิชัย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนักวิชาการจัดเก็บรายได้ชำนาญการ สังกัดเทศบาลตำบลมุก จังหวัดมุกดาหาร ปลอมใบเสร็จของเทศบาลมุก และยักยอกเงินที่ได้รับจากการจัดเก็บภาษีดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ส่วนตน
ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามป.อ. มาตรา 147 , 160 , 161 , 266 (1), 268 วรรคแรก ประกอบมาตรา 266 (1) พ.ร.บ.ป.ป.ช. พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2564
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 22 กรกฏาคม 2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 มีคำพิพากษาว่า นางปิยากร อาจวิชัย จำเลยมีความผิดตามมาตรา 147 , 160 , 161 , 266 (1), 268 วรรคแรก ประกอบมาตรา 266 (1) ให้ลงโทษตามมาตรา 147 ซึ่งเป็นบทกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามมาตรา 90
จำคุกกระทงละ 5 ปี
คำให้การของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามมาตรา 78
คงจำคุก 14 ปี 42 เดือน
พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง จึงไม่สมควรรอการลงโทษ
ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2565 ลงมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ดังกล่าว
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท