Last updated: 19 พ.ย. 2565 | 3060 จำนวนผู้เข้าชม |
ป.ป.ช. เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'ธีรภัฏ เพิ่มไกรศรี' อดีตผอ.รร.บ้านหนองสะแก ต.หนองบัว อ.คง นครราชสีมา เบิกจ่ายเงินงบประมาณ-บริจาค-อุดหนุนโครงการอาหารกลางวันนักเรียน ปี 2549 - 2556 มิชอบ ล่าสุดศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 3 พิพากษาลงโทษจำคุก 3 กระทง 15 ปี ไม่รอลงอาญา
เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา นายธีรภัฏ เพิ่มไกรศรี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองสะแก ตำบลหนองบัว อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา เบิกจ่ายเงินงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรจากทางราชการ เงินบริจาค และเงินอุดหนุนโครงการอาหารกลางวันของนักเรียน ในปีงบประมาณ 2549 - 2556 โดยมิชอบ
ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147, 151 และมาตรา 157 และตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 มาตรา 123/1 ประกอบพ.ร.บ. ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 มาตรา 192 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 มีคำพิพากษาว่า นายธีรภัฏ เพิ่มไกรศรี จำเลยมีความผิดตาม มาตรา 147 , 151 พ.ร.บ.ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 ประกอบ พ.ร.บ.ป.ป.ช.พ.ศ. 2561 มาตรา 192
การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปรวม 3 กระทง การกระทำของจำเลยแต่ละกระทงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตาม มาตรา 147 ,151 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด แต่ละบทมีอัตราโทษเท่ากันให้ลงโทษ ตามมาตรา 147 เพียงบทเดียว
ลงโทษจำคุก กระทงละ 5 ปี รวม 3 กระทง เป็นจำคุก 15 ปี
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2565 มีมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3
อย่างไรก็ดี คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท