รอลงอาญา คุก 5 ปี อดีต ผกก.สภ.หว้านใหญ่-พวก เรียกเงินช่วยไม่ให้ศาลยึดรถ 10 ล้อ

Last updated: 3 ต.ค. 2565  |  2291 จำนวนผู้เข้าชม  | 

รอลงอาญา คุก 5 ปี อดีต ผกก.สภ.หว้านใหญ่-พวก เรียกเงินช่วยไม่ให้ศาลยึดรถ 10 ล้อ

เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'พ.ต.อ.พาชื่น ภาณุพินทุ' อดีต ผกก.สภ.หว้านใหญ่ มุกดาหาร -พวก เรียกเงินช่วยเหลือไม่ให้ศาลยึดรถ 10 ล้อ ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 4  พิพากษาลงโทษจำคุก 5 ปี- อีก 2 ราย โดน 3  ปี 4 เดือน 2 คน แต่ได้รอลงอาญาทั้งหมด - ป.ป.ช.ค้าน อสส.ไม่อุทธรณ์สู้

เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา พันตำรวจเอก พาชื่น ภาณุพินทุ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหว้านใหญ่ อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร กับพวก คือ ร้อยตำรวจโทสดใส อุ่นลุม นายไชบัญชา ว่องไว (กำนันตำบลหว้านใหญ่) และนางศิริวรรณ ว่องไว  เรียกรับเงินจากผู้กระทำความผิดใช้รถบรรทกุ 10 ล้อ บรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เพื่อช่วยเหลือมิให้ศาลมีคำสั่งยึดรถบรรทุก

ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149, 157
, 200 วรรคหนึ่ง และ 201 และ พ.ร.บ.ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 ประกอบ มาตรา 86 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 มีคำพิพากษาว่า พันตำรวจเอก พาชื่น ภาณุพินทุ จำเลยที่ 1 และ ร้อยตำรวจโทสดใส อุ่นลุม  จำเลยที่ 2 มีความผิดตามมาตรา 201 , 83 นายไชบัญชา ว่องไว จำเลยที่ 3 และ นางศิริวรรณ ว่องไว จำเลยที่ 4 มีความผิดตามมาตรา 201, 86

ให้จำคุก พันตำรวจเอก พาชื่น ภาณุพินทุ จำเลยที่ 1 และ ร้อยตำรวจโทสดใส อุ่นลุม  จำเลยที่  2  คนละ 5 ปี และปรับคนละ 40,000 บาท

ให้จำคุก นายไชบัญชา ว่องไว จำเลยที่ 3 และ นางศิริวรรณ ว่องไว จำเลยที่ 4  คนละ 3  ปี 4 เดือน และปรับคนละ 26,666 บาท 50 สตางค์

เห็นควรให้โอกาสจำเลยทั้งสี่กลับตัวโดยการรอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนดสองปี

อย่างไรก็ดี สำหรับคดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งหมด  มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้

เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมลงมติเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2565 ไม่เห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4

สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 201 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานในตำแหน่งตุลาการ พนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี หรือพนักงานสอบสวน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือประหารชีวิต

ที่มา : สำนักข่าวอิศรา

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้