Last updated: 24 ก.ค. 2565 | 3413 จำนวนผู้เข้าชม |
ป.ป.ช.เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'บงกชรัตน์ อ่อนแก้ว' อดีตพนง. ธ.ก.ส.มวกเหล็ก ยักยอกเงินบัญชีฝากลูกค้าไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 1 พิพากษา จำคุก 50 ปี หลังเจ้าตัวรับสารภาพโดนโทษ 30 กระทง ให้นับโทษต่อคดีเก่าด้วย
เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ผลคดีกล่าวหา นางบงกชรัตน์ อ่อนแก้ว เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งพนักงานการเงิน 7 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขามวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ยักยอกเงินในบัญชีฝากของลูกค้าไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว
ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีมติชี้มูลความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265, 268 และ ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 4, 8 และ 11 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 มีคำพิพากษาว่า นางบงกชรัตน์ อ่อนแก้ว จำเลย มีความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 4 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป รวม 30 กระทง จำคุกกระทงละ 5 ปี
จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง คงจำคุกระทงละ 2 ปี 6 เดือน รวมโทษ จำคุกทุกกระทงแล้ว
คงจำคุก จำเลยมีกำหนด 50 ปี กับให้นับโทษจำคุกของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อท 52/2563 ของศาลนี้คำขออื่นให้ยก
ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.2565 มีมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1
สำหรับ พ.ร.บ.ว่าด้วยความเป็นของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 4 ระบุว่า ผู้ใดเป็นพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท
ที่มา : สำนักข่าวอิศรา