Last updated: 15 ก.พ. 2565 | 18309 จำนวนผู้เข้าชม |
ประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ว่าด้วยการทดลองออกอากาศวิทยุกระจายเสียงในระบบเอฟเอ็ม
เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ว่าด้วยการทดลองออกอากาศวิทยุกระจายเสียงในระบบเอฟเอ็ม ความว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดหลักเกณฑ์การทดลองออกอากาศวิทยุกระจายเสียงในระบบเอฟเอ็ม เป็นการชั่วคราว เพื่อให้การดำเนินการเปลี่ยนผ่านการทดลองประกอบกิจการกระจายเสียง ตามประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การอนุญาตทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง พ.ศ. 2555 ลงวันที่ 12 กันยายน 2555 ไปสู่ระบบการอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และการประกอบกิจการกระจายเสียงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ ปราศจากการรบกวนการใช้คลื่นความถี่ รวมทั้งเพื่อให้ผู้ทดลองประกอบกิจการที่ยังไม่สามารถเข้าสู่กระบวนการพิจารณาอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ และการประกอบกิจการกระจายเสียงได้เตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ระบบการอนุญาตภายในปี 2567
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 27 (3) (5) (6) (9) (10) (11) (13) (15) และ (24) และมาตรา 81 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 และมาตรา 27 (4) แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 ประกอบกับมาตรา 5 มาตรา 7 มาตรา 8 มาตรา 9 มาตรา 10 มาตรา 11 มาตรา 12 มาตรา 13 มาตรา 14 มาตรา 15 มาตรา 16 มาตรา 18 มาตรา 19 มาตรา 20 มาตรา 21 มาตรา 22 มาตรา 23 มาตรา 24 มาตรา 29 มาตรา 33 มาตรา 34 มาตรา 35 มาตรา 36 มาตรา 37 มาตรา 38 มาตรา 53 มาตรา 55 และมาตรา 56 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ 2 ให้ยกเลิก
(1) ประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การอนุญาตทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง พ.ศ. 2555 ลงวันที่ 12 กันยายน 2555
(2) ประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การกำกับดูแลการทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง พ.ศ. 2556 ลงวันที่ 16 สิงหาคม 2556
(3) ประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การกำกับดูแลการทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 25 มกราคม 2559
ข้อ 3 บรรดาประกาศ ระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่งอื่นใด ในส่วนที่ได้กำหนดไว้แล้วในประกาศนี้ หรือซึ่งขัดหรือแย้งกับประกาศนี้ ให้ใช้ประกาศนี้แทน
ข้อ 4 ในประกาศนี้
“การทดลองออกอากาศ” หมายความว่า การทดลองออกอากาศวิทยุกระจายเสียง ซึ่งให้บริการการส่งข่าวสารสาธารณะหรือรายการไปยังเครื่องรับที่สามารถรับฟังการให้บริการนั้นๆ ได้โดยผ่านคลื่นความถี่ในระบบเอฟเอ็ม
“ผู้ทดลองประกอบกิจการ” หมายความว่า ผู้ได้รับอนุญาตให้ทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงตามประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การอนุญาตทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง พ.ศ. 2555 ลงวันที่ 12 กันยายน 2555
“ผู้ทดลองออกอากาศ” หมายความว่า ผู้ทดลองออกอากาศวิทยุกระจายเสียงในระบบเอฟเอ็ม ตามประกาศนี้
“พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า บุคคลที่ กสทช. แต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามประกาศนี้
ข้อ 5 ให้ กสทช. เป็นผู้มีอำนาจตามประกาศนี้ ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามประกาศนี้ ให้ กสทช. เป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด โดยคำวินิจฉัยของ กสทช. ให้ถือเป็นที่สุด
หมวด 1
บททั่วไป
ข้อ 6 ภายใต้บังคับแห่งข้อ 7 ให้ผู้ทดลองประกอบกิจการดังต่อไปนี้ เป็นผู้ทดลองออกอากาศตามประกาศนี้
(1) ผู้ทดลองประกอบกิจการที่การอนุญาตยังมีผลอยู่ในวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ
(2) ผู้ทดลองประกอบกิจการที่ได้ยื่นคำขอต่ออายุการอนุญาตทดลองประกอบกิจการและชำระค่าธรรมเนียมพิจารณาคำขอหรือค่าดำเนินการและเงินเพิ่ม (ถ้ามี) ไว้แล้วก่อนวันที่ประกาศนี้ มีผลใช้บังคับ และคำขอนั้นอยู่ในระหว่างการพิจารณา
(3) ผู้ทดลองประกอบกิจการที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคำร้องอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการอนุญาตทดลองประกอบกิจการและ กสทช. ยังไม่มีมติถึงที่สุด
(4) ผู้ทดลองประกอบกิจการที่การอนุญาตสิ้นสุดลงไม่เกินหกเดือนนับแต่วันที่การอนุญาตทดลองประกอบกิจการสิ้นสุด
ข้อ 7 ให้ผู้ทดลองประกอบกิจการตามข้อ 6 เข้าแสดงตนเพื่อแจ้งความประสงค์ขอทดลองออกอากาศตามประกาศนี้ต่อสำนักงาน กสทช. ภายในสามเดือนนับแต่วันที่ประกาศนี้มีผลใช้บังคับ
เมื่อผู้ทดลองประกอบกิจการเข้าแสดงตนตามรูปแบบ ขั้นตอน และวิธีการที่ กสทช. กำหนดแล้วให้การทดลองออกอากาศตามประกาศนี้มีผลนับแต่วันที่ผู้ทดลองประกอบกิจการเข้าแสดงตนเป็นต้นไปและให้สำนักงาน กสทช. แจ้งวันเริ่มทดลองออกอากาศพร้อมทั้งเงื่อนไขการทดลองออกอากาศให้ผู้ทดลองออกอากาศทราบ และรายงานผลการดำเนินงานต่อ กสทช. เพื่อทราบภายในสามสิบวันทำการ
กรณีผู้ทดลองประกอบกิจการไม่เข้าแสดงตนให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนดตามวรรคหนึ่ง ให้มีสิทธิทดลองประกอบกิจการได้ต่อไปตามประเภท ขอบเขต เงื่อนไข มาตรฐานทางเทคนิคตามประกาศนี้ และให้มีระยะเวลาการอนุญาตทดลองประกอบกิจการเท่าที่เหลืออยู่ของผู้ทดลองประกอบกิจการรายนั้น
ข้อ 8 ในระหว่างที่ยังมิได้แสดงตนตามข้อ 7
(1) ให้ผู้ทดลองประกอบกิจการตามข้อ 6 (1) และ (1) ซึ่งได้ยื่นคำขอต่ออายุไว้แล้วก่อนวันที่การอนุญาตทดลองประกอบกิจการสิ้นสุดลง มีสิทธิทดลองประกอบกิจการไปพลางก่อนได้ภายในระยะเวลาแสดงตน
(2) ให้ผู้ทดลองประกอบกิจการตามข้อ 6 (3) และ (4) ระงับการออกอากาศและห้ามมิให้ใช้เครื่องวิทยุคมนาคมและสถานีวิทยุคมนาคมเพื่อการทดลองออกอากาศตามประกาศนี้จนกว่าจะเข้าแสดงตนตามข้อ 7 แล้วเสร็จ
ข้อ 9 การเข้าแสดงตนเพื่อแจ้งความประสงค์ขอทดลองออกอากาศตามข้อ 7 วรรคหนึ่ง ให้ผู้ทดลองประกอบกิจการยื่นแจ้งความประสงค์ขอทดลองออกอากาศตามแบบท้ายประกาศนี้ต่อสำนักงาน กสทช. ด้วยตนเอง ณ ที่ทำการสำนักงาน กสทช. หรือผ่านระบบการยื่นคำขอรับอนุญาตทางอิเล็กทรอนิกส์ของสำนักงาน กสทช.
ข้อ 10 ภายใต้บังคับของประกาศนี้ ให้ผู้ทดลองออกอากาศมีสิทธิทดลองออกอากาศต่อไปตามประเภท ขอบเขต และเงื่อนไขที่เคยได้รับอนุญาตให้ทดลองประกอบกิจการ
ผู้ทดลองออกอากาศจะต้องมีคุณสมบัติ ลักษณะผังรายการ สัดส่วนรายการ การหารายได้ ความรับผิดชอบของผู้ทดลองออกอากาศ ตามที่กำหนดในแต่ละประเภท ตามภาคผนวก ก ภาคผนวก ข หรือภาคผนวก ค ท้ายประกาศนี้ แล้วแต่กรณี
ข้อ 11 ให้ผู้ทดลองออกอากาศที่เข้าแสดงตนตามข้อ 7 แล้ว มีสิทธิทดลองออกอากาศ ตามประกาศนี้ได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567
การขอพักหรือหยุดการให้บริการชั่วคราว จะกระทำไม่ได้ เว้นแต่มีเหตุจำเป็นที่ทำให้ต้องพัก หรือหยุดการให้บริการชั่วคราว โดยให้แจ้งเหตุผลความจำเป็นพร้อมทั้งระบุระยะเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดการพักหรือหยุดการให้บริการเป็นลายลักษณ์อักษรต่อสำนักงาน กสทช. ล่วงหน้าไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน ก่อนการพักหรือหยุดให้บริการ เว้นแต่กรณีมีเหตุสุดวิสัย ให้แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรต่อสำนักงาน กสทช. ทันทีที่สามารถกระทำได้ ทั้งนี้ การพิจารณาให้พักหรือหยุดการให้บริการให้ กสทช. หรือพนักงานเจ้าหน้าที่พิจารณาเป็นรายกรณี
ข้อ 12 ผู้ทดลองออกอากาศต้องปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง มาตรฐานทางเทคนิคเครื่องส่งวิทยุกระจายเสียง ระบบเอฟเอ็ม กำลังส่งต่ำ ลงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 โดยอนุโลม เว้นแต่ข้อ 3.1.1 กำลังส่งที่กำหนด (Rated Output Power) ให้มีขีดจำกัด ดังนี้
“ขีดจำกัด กำลังคลื่นพาห์ที่วัดได้จากการทดสอบจะต้องมีค่าความผิดพลาดไม่เกิน ± 0.5 dB ของกำลังส่งที่กำหนด โดยกำลังส่งที่กำหนดของเครื่องส่งวิทยุกระจายเสียงต้องไม่เกิน 500 วัตต์”
และให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การใช้คลื่นความถี่สำหรับการทดลองออกอากาศวิทยุกระจายเสียงในระบบเอฟเอ็ม ตามภาคผนวก ง ท้ายประกาศนี้
โดยผู้ทดลองออกอากาศต้องแสดงความสอดคล้องตามมาตรฐานทางเทคนิคพร้อมทั้งนำส่งแบบรายงานระดับการแผ่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของสถานีวิทยุกระจายเสียงระบบเอฟเอ็ม กำลังส่งต่ำตามภาคผนวกท้ายประกาศ ของประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง มาตรฐานทางเทคนิคเครื่องส่งวิทยุกระจายเสียงระบบเอฟเอ็มก าลังส่งต่ำ ลงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 และแบบรายงานกำลังส่งออกอากาศของสถานีวิทยุสำหรับการทดลองออกอากาศวิทยุกระจายเสียงในระบบเอฟเอ็ม ตามภาคผนวก ง ท้ายประกาศนี้ ภายในวันที่ 31 ธันวาคม ของทุกปี
ข้อ 13 ผู้ทดลองออกอากาศมีหน้าที่ต้องป้องกันการรบกวนการใช้คลื่นความถี่ต่อกิจการวิทยุการบินตามประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ป้องกันการรบกวนการใช้คลื่นความถี่ของสถานีวิทยุกระจายเสียงต่อกิจการวิทยุการบิน ลงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 ตลอดระยะเวลาในการทดลองออกอากาศ
ข้อ 14 ผู้ทดลองออกอากาศต้องดำเนินการเกี่ยวกับเครื่องส่งวิทยุคมนาคม การตั้งสถานีวิทยุคมนาคม ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยวิทยุคมนาคม กฎหมายว่าด้วยการเดินอากาศ กฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง แล้วแต่กรณี โดยครบถ้วน
ข้อ 15 ภาระค่าใช้จ่าย ค่าดำเนินการ ค่าธรรมเนียมอื่นใดที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการตามประกาศนี้ ให้ผู้ทดลองออกอากาศเป็นผู้รับผิดชอบ
ข้อ 16 ผู้ทดลองออกอากาศต้องจัดทำผังรายการให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของการทดลองออกอากาศ และเสนอผังรายการหลักต่อ กสทช. อย่างน้อยปีละหนึ่งครั้งภายในเดือนตุลาคมของทุกปี ทั้งนี้ การจัดทำผังรายการให้เป็นไปตามที่สำนักงาน กสทช. กำหนด
ข้อ 17 การแจ้งให้ผู้ทดลองออกอากาศดำเนินการใดๆ ตามประกาศนี้ นอกจากจะกระทำเป็นหนังสือ อาจกระทำโดยวิธีอื่น เช่น การแจ้งด้วยวิธีการทางโทรสาร หรือไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบการยื่นคำขอรับอนุญาตทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีการอื่นใด ที่สำนักงาน กสทช. ประกาศกำหนด หากผู้ทดลองออกอากาศได้แจ้งต่อสำนักงาน กสทช. ว่าประสงค์จะรับทราบผลด้วยวิธีการดังกล่าว
ข้อ 18 การแจ้ง การยื่นคำร้อง ของผู้ทดลองออกอากาศ ให้ยื่นต่อสำนักงาน กสทช. ด้วยตนเอง ณ ที่ทำการสำนักงาน กสทช. หรือส่งไปรษณีย์ลงทะเบียน หรือผ่านระบบการยื่นคำขอรับอนุญาตทางอิเล็กทรอนิกส์ของสำนักงาน กสทช.
หมวด 2
การเปลี่ยนแปลงข้อมูลการทดลองออกอากาศ
ข้อ 19 เพื่อให้การบริหารจัดการคลื่นความถี่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันมิให้คลื่นความถี่รบกวนกัน และเพื่อมิให้เกิดผลกระทบต่อแผนการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และการอนุญาตให้ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงในระบบเอฟเอ็มกำลังส่งต่ำ ห้ามมิให้ผู้ทดลองออกอากาศเปลี่ยนแปลงความถี่ออกอากาศ ที่ตั้งเครื่องส่ง ที่ตั้งสายอากาศ ความสูงสายอากาศ กำลังส่งออกอากาศ และประเภทหรือวัตถุประสงค์ในการทดลองออกอากาศ ตลอดระยะเวลาในการทดลองออกอากาศตามประกาศนี้
ข้อ 20 การเปลี่ยนแปลงข้อมูลการทดลองออกอากาศ ดังต่อไปนี้ ให้ผู้ทดลองออกอากาศแจ้งรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงข้อมูลเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมเอกสารหลักฐานประกอบ เพื่อให้สำนักงาน กสทช. ทราบภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลง
(1) ชื่อนิติบุคคลหรือกลุ่มคน
(2) ผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคลหรือกลุ่มคน
(3) ผู้ถือหุ้นหรือหุ้นส่วนของนิติบุคคล โดยต้องมีผู้ถือหุ้นหรือหุ้นส่วนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ให้บริการ
(4) สมาชิกหรือกลุ่มคน โดยสมาชิกทุกคนต้องมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ให้บริการ
(5) ที่ตั้งนิติบุคคลหรือกลุ่มคน
(6) ผู้อำนวยการสถานี
(7) การแปรสภาพห้างหุ้นส่วนจำกัดเป็นบริษัทจำกัด
ข้อ 21 การเปลี่ยนแปลงข้อมูลการทดลองออกอากาศ ดังต่อไปนี้ ให้ผู้ทดลองออกอากาศยื่นคำร้องขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อพิจารณาอนุมัติ
(1) เปลี่ยนชื่อสถานี
(2) ที่ตั้งห้องส่ง
ผู้ทดลองออกอากาศจะต้องแจ้งรายละเอียดการเปลี่ยนแปลง พร้อมทั้งยื่นเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก่อนดำเนินการเปลี่ยนแปลงข้อมูล เมื่อคำร้องและเอกสารหลักฐานประกอบการพิจารณาครบถ้วน หากการขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลดังกล่าว ไม่ขัดต่อเงื่อนไขการทดลองออกอากาศและประกาศหลักเกณฑ์หรือกฎหมายอื่นใดที่เกี่ยวข้อง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่พิจารณาอนุมัติ และแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้ยื่นคำร้องทราบภายในสามสิบวันทำการ และให้พนักงานเจ้าหน้าที่รายงานผลการดำเนินงานต่อ กสทช. เพื่อทราบภายในสามสิบวันทำการ
หมวด 3
การป้องกันการรบกวนคลื่นความถี่
ข้อ 22 ห้ามมิให้ผู้ทดลองออกอากาศ ออกอากาศหรือดำเนินการใดๆ อันเป็นการแพร่คลื่นความถี่รบกวนผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์
ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งผู้ทดลองออกอากาศให้แก้ไข ปรับปรุง หรือระงับการแพร่คลื่นความถี่ที่ก่อให้เกิดการรบกวนตามวรรคหนึ่งภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง
หากภายหลังจากดำเนินการตามวรรคสองแล้ว ยังคงเกิดการแพร่คลื่นความถี่ที่ก่อให้เกิดการรบกวนซ้ำอีก ให้พนักงานเจ้าหน้าที่สั่งให้ผู้ทดลองออกอากาศระงับการออกอากาศชั่วคราว และให้แก้ไขปรับปรุงการแพร่คลื่นความถี่ที่ก่อให้เกิดการรบกวนตามวรรคหนึ่งให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง
หากพ้นกำหนดระยะเวลาตามวรรคสามและผู้ทดลองออกอากาศยังไม่สามารถแก้ไขปรับปรุงการแพร่คลื่นความถี่ที่ก่อให้เกิดการรบกวนได้ หรือกรณีที่ได้แก้ไข ปรับปรุงไปแล้วและปรากฏว่าเกิดการรบกวนในลักษณะเดียวกันซ้ำอีก ให้พนักงานเจ้าหน้าที่จัดทำรายงานผลการตรวจสอบพร้อมความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาเพิกถอนการทดลองออกอากาศต่อ กสทช. ภายในสิบห้าวันทำการ
ข้อ 23 ห้ามมิให้ผู้ทดลองออกอากาศ ออกอากาศหรือดำเนินการใดๆ อันเป็นการแพร่คลื่นความถี่รบกวนผู้ทดลองออกอากาศด้วยกันเอง
กรณีที่มีการแพร่คลื่นความถี่รบกวนระหว่างผู้ทดลองออกอากาศด้วยกัน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งให้คู่กรณีทุกฝ่ายแก้ไข ปรับปรุง มิให้เกิดการแพร่คลื่นความถี่ที่ก่อให้เกิดการรบกวนตามวรรคหนึ่งภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง หากไม่สามารถแก้ไข ปรับปรุงได้ให้พนักงานเจ้าหน้าที่สอบถามคู่กรณีว่าประสงค์จะเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยหรือไม่ หากคู่กรณีทั้งสองฝ่ายตกลงเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย ให้ดำเนินการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทให้แล้วเสร็จภายในสิบห้าวันนับแต่วันเริ่มกระบวนการไกล่เกลี่ย และรายงานผลการไกล่เกลี่ยเป็นลายลักษณ์อักษรให้ กสทช. ทราบ
หากคู่กรณีไม่ประสงค์เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย หรือไม่สามารถไกล่เกลี่ยได้ให้พนักงานเจ้าหน้าที่รายงานต่อสำนักงาน กสทช. ภายในเจ็ดวันนับแต่ได้รับแจ้งจากคู่กรณีว่าไม่ประสงค์เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย หรือวันที่ได้ทราบผลว่าไม่สามารถไกล่เกลี่ยได้ และให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการพิจารณาตรวจสอบถึงเหตุแห่งการแพร่คลื่นความถี่รบกวน หากพบว่าผู้ทดลองออกอากาศรายใดออกอากาศหรือดำเนินการใดๆ อันเป็นการแพร่คลื่นความถี่รบกวนผู้ทดลองออกอากาศรายอื่นให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งให้ผู้ทดลองออกอากาศรายนั้นระงับการแพร่คลื่นความถี่รบกวน ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง
หากภายหลังจากดำเนินการตามวรรคสองหรือวรรคสามแล้ว ยังคงเกิดการแพร่คลื่นความถี่ที่ก่อให้เกิดการรบกวนอยู่อีก ให้พนักงานเจ้าหน้าที่สั่งให้ผู้ทดลองออกอากาศระงับการออกอากาศชั่วคราว และให้แก้ไข ปรับปรุงการแพร่คลื่นความถี่ที่ก่อให้เกิดการรบกวนตามวรรคหนึ่งให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวัน
หากพ้นกำหนดระยะเวลาตามวรรคสี่และผู้ทดลองออกอากาศยังไม่สามารถแก้ไข ปรับปรุงการแพร่คลื่นความถี่ที่ก่อให้เกิดการรบกวนได้ หรือกรณีที่ได้แก้ไข ปรับปรุงไปแล้วและปรากฏว่าเกิดการรบกวนในลักษณะเดียวกันซ้ำอีก ให้พนักงานเจ้าหน้าที่จัดทำรายงานผลการตรวจสอบพร้อมความเห็น เพื่อประกอบการพิจารณาเพิกถอนการทดลองออกอากาศต่อ กสทช. ภายในสิบห้าวันทำการ
ข้อ 24 ห้ามมิให้ผู้ทดลองออกอากาศ ออกอากาศหรือดำเนินการใดๆ อันเป็นการแพร่คลื่นความถี่รบกวนกิจการวิทยุการบินทั้งภายในและระหว่างประเทศ โดยผู้ทดลองออกอากาศมีหน้าที่ปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ป้องกันการรบกวนการใช้คลื่นความถี่ของสถานีวิทยุกระจายเสียงต่อกิจการวิทยุการบิน ลงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564
หากภายหลังจากดำเนินการตามประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ป้องกันการรบกวนการใช้คลื่นความถี่ของสถานีวิทยุกระจายเสียงต่อกิจการวิทยุการบิน ลงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 แล้ว ยังคงเกิดการแพร่คลื่นความถี่ที่ก่อให้เกิดการรบกวนกิจการวิทยุการบินทั้งภายในและระหว่างประเทศซ้ำอีก ให้พนักงานเจ้าหน้าที่จัดทำรายงานผลการตรวจสอบพร้อมความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาเพิกถอนการทดลองออกอากาศต่อ กสทช.
ข้อ 25 ห้ามมิให้ผู้ทดลองออกอากาศ ออกอากาศหรือดำเนินการใดๆ อันเป็นการแพร่คลื่นความถี่รบกวนกิจการโทรคมนาคมหรือกิจการวิทยุคมนาคมที่ได้รับใบอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งให้ผู้ทดลองออกอากาศ แก้ไข ปรับปรุง หรือระงับการแพร่คลื่นความถี่ที่ก่อให้เกิดการรบกวนตามวรรคหนึ่งภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับการแจ้ง
หากภายหลังจากดำเนินการตามวรรคสองแล้ว ยังคงเกิดการแพร่คลื่นความถี่ที่ก่อให้เกิดการรบกวนซ้ำอีก ให้พนักงานเจ้าหน้าที่สั่งให้ผู้ทดลองออกอากาศระงับการออกอากาศชั่วคราว และให้แก้ไขปรับปรุงการแพร่คลื่นความถี่ที่ก่อให้เกิดการรบกวนตามวรรคหนึ่งให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวัน
หากพ้นกำหนดระยะเวลาตามวรรคสามและผู้ทดลองออกอากาศยังไม่สามารถแก้ไขปรับปรุงการแพร่คลื่นความถี่ที่ก่อให้เกิดการรบกวนได้ หรือกรณีที่ได้แก้ไขปรับปรุงไปแล้วและปรากฏว่าเกิดการรบกวนในลักษณะเดียวกันซ้าอีก ให้พนักงานเจ้าหน้าที่จัดทำรายงานผลการตรวจสอบพร้อมความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาเพิกถอนการทดลองออกอากาศต่อ กสทช. คำสั่งของ กสทช. ให้ถือเป็นที่สุด
ข้อ 26 กสทช. อาจกำหนดมาตรการหรือดำเนินการอื่นใดเพิ่มเติมเพื่อป้องกันการรบกวนกิจการวิทยุการบินในอนาคต
หมวด 4
การกำกับดูแลการทดลองออกอากาศ
ข้อ 27 กรณีผู้ทดลองออกอากาศฝ่าฝืนเงื่อนไขการทดลองออกอากาศหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศคำสั่ง หรือมาตรการที่เกี่ยวกับการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ที่ กสทช. กำหนดหรือกฎหมายอื่นๆ ที่มีโทษทางอาญา นอกจากต้องรับโทษตามกฎหมายอื่นแล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งให้ดำเนินการแก้ไข ระงับ ปรับปรุงหรือปฏิบัติให้ถูกต้องหรือเหมาะสมภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในคำสั่ง
ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่สั่งให้ดำเนินการแก้ไข ระงับ ปรับปรุงหรือปฏิบัติให้ถูกต้อง หรือเหมาะสมตามวรรคหนึ่งแล้ว หากผู้ทดลองออกอากาศยังคงฝ่าฝืน ไม่ดำเนินการแก้ไข ระงับปรับปรุง หรือปฏิบัติให้ถูกต้องหรือเหมาะสม ให้พนักงานเจ้าหน้าที่รวบรวมข้อเท็จจริง พร้อมจัดทำรายงานความเห็น เสนอต่อ กสทช. เพื่อพิจารณาตามข้อ 28
ข้อ 28 เมื่อ กสทช. ได้รับรายงานจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามข้อ 27 วรรคสองแล้ว กสทช. อาจพิจารณาลงโทษทางปกครองอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ตามควรแก่กรณี
(1) ให้มีการชำระค่าปรับบังคับการตามจำนวนที่สมควรแก่เหตุ โดยค่าปรับบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
(2) พักการทดลองออกอากาศ ไม่เกินครั้งละสามสิบวัน
(3) เพิกถอนการทดลองออกอากาศ
ข้อ 29 ในกรณีดังต่อไปนี้ ให้ กสทช. มีอำนาจเพิกถอนการทดลองออกอากาศ
(1) ผู้ทดลองออกอากาศถูกพักการทดลองออกอากาศมาแล้ว 2 ครั้งในระหว่างการทดลองออกอากาศตามประกาศนี้
(2) ผู้ทดลองออกอากาศฝ่าฝืนหรือกระทำความผิดตามประกาศนี้ หรือคำสั่งที่กำหนดตามประกาศนี้อีก หรือกรณีที่เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง
(3) ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 10
(4) ผู้ทดลองออกอากาศมิได้ทดลองออกอากาศด้วยตนเอง
(5) ผู้ทดลองออกอากาศฝ่าฝืนเงื่อนไขการหารายได้ตามข้อ 10
(6) ผู้ทดลองออกอากาศ ออกอากาศโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือออกอากาศโดยใช้คลื่นความถี่ หรือที่ตั้งที่ไม่ได้รับอนุญาต
ข้อ 30 ในกรณีที่ปรากฏแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ว่าผู้ทดลองออกอากาศฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อ 12 หรือข้อ 13 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งผู้ทดลองออกอากาศระงับการออกอากาศไว้จนกว่าจะได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว
หากผู้ทดลองออกอากาศไม่ปฏิบัติตามคำสั่งให้ระงับการออกอากาศตามวรรคหนึ่ง ให้พนักงาน
เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน พร้อมจัดทำรายงานความเห็นต่อ กสทช. เพื่อพิจารณาเพิกถอนการทดลองออกอากาศภายในสี่สิบห้าวันทำการนับแต่วันที่พนักงานเจ้าหน้าที่พบการฝ่าฝืนคำสั่ง
ข้อ 31 เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองผู้บริโภค ในกรณีที่ กสทช. เห็นว่าผู้ทดลองออกอากาศ ดำเนินการใดๆ ในลักษณะเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคตามประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง การกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2555 ลงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2555 ให้ กสทช. พิจารณาสั่งให้ผู้ทดลองออกอากาศระงับการดำเนินการดังกล่าวโดยทันที และหากปรากฏว่าผู้ทดลองออกอากาศยังคงฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของ กสทช. ให้ชำระค่าปรับบังคับการตามอัตราที่ประกาศดังกล่าวกำหนด
หมวด 5
การสิ้นสุดการทดลองออกอากาศ
ข้อ 32 ให้การทดลองออกอากาศสิ้นสุดลง ด้วยเหตุดังต่อไปนี้
(1) ระยะเวลาทดลองออกอากาศสิ้นสุดลงตามข้อ 11
(2) ผู้ทดลองออกอากาศขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 10
(3) กสทช. มีมติให้เพิกถอนการทดลองออกอากาศ
(4) ผู้ทดลองออกอากาศขอยกเลิกการทดลองออกอากาศด้วยตนเอง
(5) ผู้ทดลองออกอากาศเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการกระจายเสียง
ข้อ 33 เมื่อการทดลองออกอากาศสิ้นสุดลง ให้ระงับการออกอากาศทันที และห้ามมิให้ผู้ทดลองออกอากาศใช้เครื่องวิทยุคมนาคมและสถานีวิทยุคมนาคมเพื่อการทดลองออกอากาศ
ประกาศ ณ วันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2565
พลเอก สุกิจ ขมะสุนทร
กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
ทำหน้าที่ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
:: เอกสารสำหรับดาวน์โหลดและไฟล์ที่เกี่ยวข้อง ::