Last updated: 26 ก.ย. 2562 | 3601 จำนวนผู้เข้าชม |
คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติ ให้ น.ส. มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรฯ ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน ทั้ง 2 กรณี เมื่อพ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานีและกรณีเข้ารับตำแหน่ง รมช.เกษตรฯ
วันที่ 26 กันยายน 2562 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ จังหวัดนนทบุรี นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่า เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2562 คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีการประชุมพิจารณาประเด็น นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี และกรณีเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรือไม่ โดยที่ประชุมพิจารณาแล้วเห็นว่าพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 102 ได้บัญญัติให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งดังต่อไปนี้ ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน
(1) ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
(2) ............................
.................................
(9) ผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่น ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนด
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินไว้ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2555 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ประกอบประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรื่อง กำหนดตำแหน่งผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2554 และต่อมาพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มีผลใช้บังคับมาตรา 188 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าว ได้กำหนดให้ผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไว้ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม หรือตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนด ยังมีหน้าที่ ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อไปจนกว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ จะกำหนด เป็นอย่างอื่น และการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินที่ได้ยื่นไว้แล้วตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ให้ถือว่าเป็นการยื่นตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ และเมื่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ใช้บังคับ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ออกประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนดตำแหน่งของผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินตามมาตรา 102 พ.ศ. 2561 โดยกำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตำแหน่งใดบ้างที่มีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน และได้ออกประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนดตำแหน่งของผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ตามมาตรา 102 (9) พ.ศ. 2561 เป็นอีกฉบับหนึ่ง กำหนดให้ ผู้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตำแหน่งใดบ้าง ที่มีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน นอกจากนี้ สถานะการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐของผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็แตกต่างไปจากกฎหมายเดิม กล่าวคือ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 กำหนดให้ผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหาร ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 กำหนดให้มีสถานะเจ้าหน้าที่ของรัฐทั่วไป มิใช่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ดังนั้น เมื่อ นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ พ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี จึงมีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่ง ตามประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรื่อง กำหนดตำแหน่งของผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินตามมาตรา 102 (9) พ.ศ. 2561 ในขณะเดียวกัน เมื่อ นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็มีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีเข้ารับตำแหน่ง ตามประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรื่อง กำหนดตำแหน่งของผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินตามมาตรา 102 พ.ศ. 2561 สำหรับบทบัญญัติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 105 วรรคสี่ ที่บัญญัติว่า “ในกรณีตาม (1) ถ้าพ้นจากตำแหน่ง และได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเดิมหรือตำแหน่งใหม่ภายในหนึ่งเดือน ผู้นั้นไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินกรณี พ้นจากตำแหน่งและกรณีเข้ารับตำแหน่งใหม่ แต่ไม่ต้องห้ามที่ผู้นั้นจะยื่นเพื่อเป็นหลักฐาน” นั้น มีความหมายเฉพาะกรณีพ้นจากตำแหน่งเดิม และเข้ารับตำแหน่งใหม่ในสถานะของความเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือ เจ้าพนักงานของรัฐในประเภทเดียวกัน ตามมาตรา 102 (1) หรือ (9) แต่มิได้หมายถึงพ้นจากตำแหน่งตามมาตรา 102 (9) แล้วเข้าดำรงตำแหน่งใหม่ตามมาตรา 102 (1) ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐคนละสถานะ ดังเช่น กรณีของ นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ นี้ ดังนั้น ในกรณีนี้ นางสาว มนัญญา ไทยเศรษฐ์ จึงมีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรณีพ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี และกรณีเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาข้อกฎหมายแล้วเห็นว่าตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 105 วรรคสี่ ที่ระบุว่า กรณีพ้นจากตำแหน่งการเมืองเดิม และเข้ารับตำแหน่งใหม่ภายใน 1 เดือน บุคคลนั้นไม่ต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน จะเข้าข่ายสำหรับผู้ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรี ส.ส. และ ส.ว. เท่านั้น จะไม่เชื่อมโยงไปถึงตำแหน่งทางการเมืองท้องถิ่นอย่างนายกเทศมนตรี
พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวอีกว่า หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. จะแจ้งไปยัง นางสาวมนัญญา เพื่อให้ดำเนินการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ทั้งช่วงที่พ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี และช่วงเข้ารับตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งกรณีนี้เป็นปัญหาเรื่องการตีความข้อกฎหมายที่แตกต่างกัน ดังนั้น นางสาวมนัญญา ยังสามารถยื่นขอผ่อนผัน เพื่อขยายเวลาในการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินได้